หลายฝ่ายกำลังติดตามอย่างใกล้ชิดว่า สิ่งของบรรเทาทุกข์จะเข้าไปยังฉนวนกาซาได้อย่างที่สหรัฐฯ อิสราเอล และอียิปต์ ประกาศไว้เมื่อวานนี้หรือไม่ หลังจากสหรัฐฯ ระบุว่าบรรลุข้อตกลงเปิดจุดผ่านแดนราฟาห์นอกจากนี้ยังมีอีกความเคลื่อนไหวที่สำคัญเกิดขึ้น หลังผู้นำสหรัฐฯ ออกมากล่าวสุนทรพจน์ขอให้ทุกฝ่ายในสหรัฐฯ สนับสนุนทั้งยูเครนและอิสราเอลในการปกป้องตนเอง
เมื่อคืนที่ผ่านมา โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้กล่าวสุนทรพจน์จากทำเนียบขาวในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี.
“ทูตอิหร่าน”เผย“ฮามาส”รับปากปล่อยตัวประกันชาวไทย-ฟิลิปปินส์
คนไทยในอิสราเอล ถูกจับเป็นตัวประกันเพิ่มอีก 2 คน
เนื้อหาของสุนทรพจน์เป็นการเรียกร้องให้สภาคองเกรส และประชาชาชนสหรัฐฯ สนับสนุนอิสราเอลและยูเครนในภาวะสงครามอย่างเต็มที่ โดยรัฐบาลกำลังจะส่งร่างพิจารณางบประมาณเร่งด่วนเพื่อช่วยสองชาตินี้ไปให้สภาพิจารณา ผู้นำสหรัฐฯ ย้ำว่า การสนับสนุนทั้งสองประเทศจะปกป้องความมั่นคงของสหรัฐฯ
นอกจากนี้ ผู้นำสหรัฐฯ ยังได้พูดถึงการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมที่กำลังวิกฤตหนักในฉนวนกาซา โดยระบุว่า อิยิปต์และอิราเอลตกลงว่าจะให้มีการเปิดด่านราฟาห์ เพื่อให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเข้าไป
ตั้งแต่วันที่ 10 ตุลาคมที่ผ่านมา หรือ 3 วันหลังกลุ่มฮามาสโจมตีอิสราเอล นอกจากการเปิดฉากโจมตีทางอากาศเพื่อตอบโต้กลุ่มฮามาสแล้ว อิสราเอลยังประกาศปิดตายฉนวนกาซา และไม่อนุญาตให้มีการส่งสิ่งของที่จำเป็นทุกอย่างสำหรับการดำรงชีวิตเข้าไป นี่ทำให้ประชาชนกว่า 2.3 ล้านคนในฉนวนกาซา กำลังใช้ชีวิตด้วยความยากลำบาก
ประเด็นวิกฤตด้านมนุษยธรรมในฉนวนกาซา ถือเป็นประเด็นสำคัญที่ทุกฝ่ายทั่วโลกให้ความสนใจ เนื่องจากเกี่ยวข้องกับชีวิตพลเรือนที่ไม่ได้มีส่วนร่วมกับสงครามตามหลักการของอนุสัญญาเจนีวา ปี 1949
นี่ทำให้เมื่อวันพุธที่ 18 ตุลาคมที่ผ่านมา ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ได้เดินทางไปยังอิสราเอลและหารือร่วมกับนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู
หนึ่งในประเด็นสำคัญที่ถูกหยิบยกขึ้นมาหารือคือ การโน้มน้าวให้อียิปต์และอิสราเอลร่วมมือกันเปิดจุดผ่านแดนราฟาห์ เพื่อให้ขบวนรถที่บรรทุกความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมสามารถส่งมอบความช่วยเหลือในฉนวนกาซาได้
ราฟาห์เป็นช่องทางผ่านแดนเดียวที่สามารถใช้เพื่อเข้าและออกจากฉนวนกาซาได้ หลังจากช่องทางผ่านแดนเอเรซ ซึ่งอยู่ติดกับพรมแดนอิสราเอลถูกปิดตายตั้งแต่ช่วงแรกๆ หลังกลุ่มฮามาสเปิดฉากโจมตีอิสราเอล
ล่าสุดเมื่อวานนี้ ทางการสหรัฐฯ ได้ออกมาระบุว่า อียิปต์ ซึ่งเป็นผู้ควบคุมจุดผ่านแดนราฟาห์ตอบตกลงว่าจะเปิดเส้นทางให้ แต่มีเงื่อนไขว่า อิสราเอลจะไม่โจมตีบริเวณดังกล่าว และอียิปต์จะไม่รับผู้ลี้ภัยชาวปาเลสไตน์เพิ่มเติม เนื่องจากตอนนี้อียิปต์ให้ที่พักพิงกับผู้ลี้ภัยไว้มากถึง 9 ล้านคนแล้ว
อย่างไรก็ตาม การเปิดจุดผ่านแดนราฟาห์ที่อียิปต์ตกลงไว้ จะทำได้แบบจำกัดมาก เนื่องจากทางการอียิปต์จะอนุญาตให้รถบรรทุกขนของเข้าไปได้แค่ 20 คัน และไม่มีการเปิดทางให้คนที่อยู่ในฉนวนกาซาออกมา ไม่ว่าจะเป็นชาวปาเลสไตน์หรือชาวต่างชาติที่ติดอยู่ในนั้น
ส่วนสถานการณ์บริเวณหน้าจุดผ่านแดนราฟาห์ในตอนนี้ รถบรรทุกสิ่งของ เวชภัณฑ์ และความช่วยเหลือต่างๆ ประมาณ 100 คัน ได้จอดรออยู่บริเวณทางเข้า รอเพียงสัญญาณอนุญาตจากรัฐบาลอียิปต์เท่านั้น
หนึ่งในบรรดารถที่จอดรออยู่หน้าจุดผ่านแดน คือ รถบรรทุกเวชภัณฑ์ต่างๆ เรื่องนี้ได้รับการยืนยันโดยทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก หรือ WHO ที่แถลงข่าวเมื่อวานนี้ว่า รถบรรทุกเวชภัณฑ์ 5 คันเตรียมพร้อมที่จะข้ามเข้าชายแดนระหว่างฉนวนกาซาและอียิปต์แล้ว ล่าสุดยูเอ็นระบุสิ่งของบรรเทาทุกข์เข้าฉนวนกาซ่าได้พรุ่งนี้
นอกจากอียิปต์ อีกฝ่ายหนึ่งที่มีบทบาทสำคัญกับการเปิดจุดผ่านแดนราฟาห์ คือ อิสราเอล เมื่อวันพุธที่ผ่านมา รัฐบาลอิสราเอลออกมาเปิดเผยว่ายินดีที่จะให้ความช่วยเหลือต่างๆ เข้าไปยังฉนวนกาซาได้
แต่หลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตว่า ความช่วยเหลือที่อิสราเอลอนุญาตให้เข้าไปนั้นค่อนข้างจำกัด โดยจะเป็นสิ่งของประเภทอาหาร น้ำดื่ม และเวชภัณฑ์เท่านั้น ไม่มีสิ่งที่สำคัญอย่างเชื้อเพลิง ซึ่งเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับเครื่องผลิตกระแสไฟฟ้า เพื่อส่งไปยังโรงพยาบาลต่างๆ ในฉนวนกาซา เจ้าของร้านค้าในเขตข่าน ยูนิส เมืองทางตอนใต้ของฉนวนกาซาระบุว่า ตอนนี้ สินค้าใกล้จะหมดและไม่มีสินค้าใหม่เข้ามาเติม เนื่องจากจุดผ่านแดนไม่เปิด และถ้าปล่อยให้สถานการณ์เป็นเช่นนี้ต่อไป ฉนวนกาซาจะกลายเป็นหลุมฝังศพหมู่ขนาดใหญ่
สำหรับสัญญาณการเปิดด่านราฟาห์ ล่าสุดเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมาตามเวลาบ้านเรา นักข่าวของสำนักข่าว AFP รายงานว่า ตอนนี้ทางการอียิปต์เริ่มทยอยนำแบริเออร์ปูนที่ขวางอยู่หน้าจุดผ่านแดนออก และกำลังซ่อมถนนหนทางในเขตราฟาห์ของอิสราเอลที่เสียหายจากการโจมตี ทำให้หลายฝ่ายคาดการณ์ว่า จุดผ่านแดนราฟาห์อาจเปิดในอีกไม่กี่วันข้างหน้า
ท่ามกลางวิกฤตด้านมนุษยธรรมในฉนวนกาซา ล่าสุดมีสัญญาณออกมาว่าปฏิบัติการภาคพื้นดินของอิสราเอลอาจจะเริ่มขึ้นในอีกไม่ช้านี้ หลังจากระดมพลประชิดชายแดนฉนวนกาซามานานหลายวัน
เรียกร้องถอดสัญชาติ เบนเซม่า ยึดบัลลงดอร์ หลังเชื่อมโยงกลุ่มก่อการร้าย
พยากรณ์ล่วงหน้า 24 ต.ค. – 2 พ.ย. ฝนปนอากาศเย็น นับถอยหลังฤดูหนาว!
อุตุฯ ประกาศฉบับที่ 6 พายุโซนร้อน “ซันปา”
หนึ่งในสัญญาณความพร้อมดังกล่าวคือ การเดินทางตรวจเยี่ยมกองกำลังของ โยอาฟ กัลแลนต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมอิสราเอล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมอิสราเอลกล่าวกับบรรดาทหารว่า อีกไม่นานทุกคนจะได้เห็นฉนวนกาซาจากด้านใน และกลุ่มฮามาสจะต้องถูกกำจัดให้หมดไป
ขณะเดียวกัน วันนี้นายกฯ เนทันยาฮูของอิสราเอล ก็ได้เดินไปทางไปยังพื้นที่แนวหน้าเพื่อตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจทหารอิสราเอลเช่นเดียวกันผู้นำอิสราเอลได้พูดบรรดาทหารว่า กองทัพอิสราเอลจะโจมตีศัตรูอย่างรุนแรงและพิชิตศัตรูให้ได้
อย่างไรก็ดี ภารกิจของกองทัพอิสราเอลอาจไม่ใช่โจทย์ที่ง่าย และมีเดิมพันที่ค่อนข้างสูง โดยเฉพาะกับชีวิตของพลเมืองและทหาร เนื่องจากการต่อสู้ครั้งนี้จะเป็นแบบ Urban warfare
การต่อสู้ครั้งนี้อาจแตกต่างจากครั้งที่ผ่านมา โดยย้อนกลับไปเมื่อปี 2014 อิสราเอลเคยบุกเข้าไปฉนวนกาซาเพื่อเข้าช่วยเหลือตัวประกัน การบุกเข้าไปคราวนั้นเป็นแบบรีบเข้าและออก หรือ quick and out นอกจากช่วยเหลือตัวประกันแล้ว
กองทัพอิสราเอลยังทำลายอุโมงค์ของกลุ่มฮามาสทางด้านเหนือของฉนวนกาซาด้วย อย่างไรก็ตาม ประเมินกันว่าในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา กลุ่มฮามาสสร้างอุโมงค์เพิ่มใหม่
อุโมงค์ดังกล่าวอาจมีความยาวไม่น้อยกว่า 300 กิโลเมตร เชื่อมระหว่างกาซาเหนือและใต้ ตั้งแต่ชายแดนอียิปต์ไปจนถึงพื้นที่ที่ติดกับจุดผ่านแดนเอเรซของอิสราเอล บางจุดมีความลึกกว่า 70 เมตร
หลายฝ่ายเชื่อกันว่า ตัวประกันถูกกักไว้อยู่ในระบบอุโมงค์นี้ ญาติของเหยื่อที่ถูกจับตัวไประบุว่า กองทัพอิสราเอลกำลังจะทำสิ่งที่ต้องทำ แต่ก็หวังลึกๆ ว่าครอบครัวจะปลอดภัย
อิสราเอลเตรียมรับมือกับความท้าทายและข้อจำกัดของการสู้รบแบบ Urban Warfare อย่างไรบ้าง หนึ่งในนั้นคือ การจำลองการสู้รบในฉนวนกาซาอิสราเอลได้มีการจำลองฉนวนกาซาเอาไว้ทางตอนใต้ โดยมีลักษณะเป็นเมืองต่างๆ ตลอดระยะเวลา 17 ปีหลังกลุ่มฮามาสขึ้นมาปกครองฉนวนกาซา อิสราเอลได้มีการซ้อมรบในเมืองจำลองแห่งนี้ต่อเนื่อง
นี่คือส่วนหนึ่งของการซ้อมรบในเมืองจำลอง นอกจากการซ้อมรบตลอดระยะเวลากว่า 17 ปีที่ผ่านมาแล้ว อาวุธจากสหรัฐฯ ก็เป็นอีกหนึ่งส่วนสำคัญในการรับมือกับ
กลุ่มฮามาส เมื่อวานนี้ กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ได้ส่งอาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆ ให้อิสราเอล โดยหนึ่งในนั้น คือ รถหุ้มเกราะคำพูดจาก สล็อตวอเลท
ภาพที่ได้เห็นอยู่นี้คือ รถหุ้มเกราะชุดแรกที่เดินทางมาถึงแผ่นดินอิสราเอลในวันนี้และจะถูกนำไปประจำการในแนวหน้า
นอกจากนี้ สหรัฐฯ ยังได้ส่งระบบไอรอน โดมเพิ่มเติมให้แก่อิสราเอล โดยผู้ที่ออกมายืนยันเรื่องนี้คือ พลจัตวา แพต ไรเดอร์ โฆษกกระทรวงสหรัฐฯ
แม้อิสราเอลจะเตรียมความพร้อมในการทำสงครามกับกลุ่มฮามาส แต่จนถึงตอนนี้นักวิเคราะห์จำนวนไม่น้อยให้ความเห็นไปในทิศทางเดียวกันว่า ตอนจบของสงครามนี้ยังคงไม่ชัดเจน และไม่มีใครสามารถตอบได้ สิ่งหนึ่งที่หลายฝ่ายคาดการณ์ไว้คือ สงครามระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาสจะเป็นสงครามยาว และอาจไม่ใช่แค่ปฏิบัติการภาคพื้นดินเท่านั้น
ล่าสุด เจ้าหน้าที่ระดับสูงของอิสราเอลรายหนึ่ง ได้ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวเดอะการ์เดียนของอังกฤษว่า ปฏิบัติการของอิสราเอลครั้งนี้อาจลากยาว เพราะจะเป็นปฏิบัติการถอนรากถอนโคนกลุ่มฮามาส การปราบกลุ่มฮามาสครั้งนี้ จะไม่ใช่แค่การปราบปรามกองกำลังติดอาวุธเท่านั้น แต่จะเป็นการปราบปรามกลุ่มฮามาสในทุกมิติ รวมถึงพรรคการเมืองและเศรษฐกิจด้วย ซึ่งต้องใช้เวลานานกว่าจะสำเร็จ
ก่อนหน้านี้ ผู้นำสหรัฐฯ ได้ออกมาเตือนให้อิสราเอลระมัดระวัง และคิดให้รอบคอบก่อนการเปิดปฏิบัติการทางการทหาร
ประธานาธิบดีไบเดนระบุว่า อิสราเอลควรเรียนรู้จากความผิดพลาดของสหรัฐฯ ที่เปิดปฏิบัติการทางการทหารในอัฟกานิสถานและอิรักด้วยความโกรธ หลังเกิดเหตุการณ์ 11 กันยายน 2011 และต้องจบลงด้วยการถอนทหารออกมา