แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 0 – 0 ไกเซอร์ ชีฟส์

ภาพการแข่งขัน | วีดีโอคลิป
สนาม ลอฟตัส สเตเดี้ยม, แอฟริกาใต้
รายการ โวดาคอม ชาลเลนจ์
เวลา 20.15 น. วันเสาร์ที่ 22 กรกฎาคม 2549
ผู้ตัดสิน เอ็ดดี้ เมลเล่ต์
(ไกเซอร์ ชีฟส์ ชนะจุดโทษ 4 – 3)
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จบการทัวร์แอฟริกาใต้ด้วยการพ่ายแพ้ในการดวลจุดโทษ 4 – 3 ในการพบกับไกเซอร์ ชีฟส์ หลังจากเสมอกันในเวลาปกติ 0 – 0 ในนัดชิงชนะเลิศโวดาคอม ชาลเลนจ์ 2006 ที่สนามลอฟตัส สเตเดี้ยม เมื่อวันเสาร์
คริส อีเกิ้ล และเบน ฟอสเตอร์ พลาดในการดวลจุดโทษ โดยผลงานในสนามของแมนฯ ยูไนเต็ด ทำได้ดีกว่าในครึ่งแรกแต่ไม่สามารถทำประตูได้ ตง ฟางโจว ซึ่งทำประตูชัยได้ในการพบกับคู่ต่อสู้ทีมเดียวกันนี้เมื่อวันอังคารน่าจะทำแฮททริกได้ด้วยซ้ำ คีแรน ริชาร์ดสัน และจูเซ็ปเป้ รอสซี่ ก็พลาดเป้าไปหมด
เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เปลี่ยนทีม 4 ตำแหน่งจากชุดที่ลงเล่นเมื่อวันอังคาร โดยส่งลุค สตีล ลงเป็นผู้รักษาประตูแทนที่ของเบน ฟอสเตอร์ ในขณะที่ฟิลลิป บาร์ดสลี่ย์ ได้ลงเล่นเป็นแบ็คขวาแทนแดนนี่ ซิมป์สัน และโจนาธาน อีแวนส์ ได้ลงเป็นเซ็นเตอร์ฮาล์ฟคู่กับเวส บราวน์ โดยถอดจอห์น โอเชีย ออกไป ส่วนแบ็คซ้ายยังคงเป็นปาทริซ เอวร่า
แผงกองกลางยังใช้ชุดเดิม ดาร์เรน เฟล็ตเชอร์ และคีแรน ริชาร์ดสัน เป็นปีกขวาและปีกซ้าย พอล สโคลส์ และไรอัน กิ๊กส์ เป็นมิดฟิลด์คู่กลาง ในขณะที่ตง ฟางโจว ได้ลงเป็นศูนย์หน้าคู่กับจูเซ็ปเป้ รอสซี่ โดยถอดโอเล่ กุนน่าร์ ออกเป็นตัวสำรอง
0 – 5 นาที : เกมเริ่มต้นขึ้นอย่างรวดเร็วเมื่อทั้ง 2 ทีมมีโอกาสทำประตูหลายครั้ง ดิธีโก โมโตโต ได้โอกาสยิงจากฝั่งซ้ายแต่ข้ามคานออกไป ชีฟส์ ได้โอกาสอีกครั้งจากไกเซอร์ โมทอง จูเนียร์ แต่บอลลอยออกข้างเสาไป ในขณะที่แมนฯ ยูไนเต็ด ได้โอกาสทำประตูครั้งแรกเมื่อกิ๊กส์ ไหลบอลให้ริชาร์ดสัน ได้ยิงแต่ไม่ตรงกรอบ
5 – 10 นาที : แมนฯ ยูไนเต็ด เริ่มครองเกมได้ดีกว่า เฟล็ตเชอร์ และกิ๊กส์ สร้างปัญหาให้กับเกมรับของชีฟส์ ด้วยลูกจ่ายสั้นที่แม่นยำทำให้บาร์ดสลี่ย์ ได้หลุดขึ้นมายิงแต่ไปตรงตัวโรเวน เฟอร์นานเดซ เกมรับที่เคยแข็งแกร่งของชีฟส์ โดนลูกจ่ายเร็วและแม่นยำของแมนฯ ยูไนเต็ด เล่นงาน ตง ฟางโจว ได้ยิงแต่เบาเกินไปทำให้เฟอร์นานเดซ รับสบาย
10 – 15 นาที : ชีฟส์ เริ่มกลับมาสู่เกมได้บ้าง เกิร์ต สคอล์กวิค ตัดบอลได้แล้วจ่ายทะลุช่องขึ้นหน้าแต่ฌอน บาร์ตเลตต์ ไปไม่ถึงบอล บาร์ตเลตต์ ได้โอกาสอีกครั้งเมื่อเขาได้หลุดเดี่ยวแต่ลูกยิงของเขาไม่ดีพอทำให้สตีล รับได้สบาย
15 – 20 นาที : แมนฯ ยูไนเต็ด ยังคงบีบพื้นที่กดดันได้ดี พาทริก มาโย และเดวิด โอบัว ช่วยกันพาบอลขึ้นหน้ามาได้ถึงกึ่งกลางสนามก็โดนแมนฯ ยูไนเต็ด ตัดบอลไปได้และโต้กลับเร็วทันทีแต่ยังไม่ได้ผล
20 – 25 นาที : ริชาร์ดสัน ซึ่งเล่นได้โดดเด่นในครึ่งแรกต่อบอลกับเอวร่า ทางฝั่งซ้ายได้ดี แต่ลูกเปิดของเอวร่า เข้ากลางไม่ดีพอทำให้มาโย ตัดบอลได้ก่อนที่บอลจะไปถึงตง ฟางโจว
25 – 30 นาที : ปิศาจแดง ยังคงเดินหน้าบุกต่อไปและเกือบจะได้ประตูเมื่อลูกเปิดของเฟล็ตเชอร์ ลอยข้ามหัวมาโย ไปเข้าทางตง ฟางโจว ได้ยิงถากเสาออกไปนิดเดียว หลังจากนั้นไม่กี่นาที เฟล็ตเชอร์ ก็เปิดบอลข้ามหัวมาโย ได้อีกครั้ง แต่คราวนี้เฟอร์นานเดซ พุ่งออกมาตัดบอลที่เท้าของตง ฟางโจว เอาไว้ได้
30 – 35 นาที : เอวร่า พาบอลขึ้นมาได้ดีก่อนที่จะจ่ายให้กับริชาร์ดสัน ได้ยิงแต่ก็ยังลอยข้ามคานออกไปอีก
35 – 40 นาที : เฟอร์นานเดซ ออกมาตัดบอลพลาดแต่แมนฯ ยูไนเต็ด ก็ฉวยโอกาสไว้ไม่ได้ ชีฟส์ ได้โอกาสบ้างเมื่อโมทอง จูเนียร์ วิ่งไล่ตามบอลโยนยาวแต่สตีล เข้าถึงบอลได้ก่อน
40 – 45 นาที : โอกาสสุดท้ายในครึ่งแรกเป็นของแมนฯ ยูไนเต็ด เมื่อรอสซี่ ได้หลุดไปยิง เขาพยายามจะชิพข้ามหัวเฟอร์นานเดซ แต่บอลลอยออกนอกกรอบไป หมดครึ่งเวลาแรกยังเสมอกัน 0 – 0
45 – 50 นาที : ชีฟส์ เริ่มต้นครึ่งหลังได้ดีกว่าและหาที่ว่างได้มากขึ้น ธาโบ มูคี่ ที่ถูกเปลี่ยนตัวลงมาเล่นในแผงกองกลางทำผลงานได้ดีเมื่อเขาได้โอกาสยิงไกลแต่ไม่ตรงกรอบ
50 – 55 นาที : แม้ว่าในครึ่งแรกแผงกองกลางของชีฟส์ จะไม่ค่อยได้บอล แต่ครึ่งหลังกลับกลายเป็นหนังคนละม้วนเมื่อชีฟส์ ครองเกมได้ดีกว่า สคอล์กวิค ได้หลุดขึ้นมาเปิดบอลทางฝั่งซ้าย แต่อาเธอร์ สวาน เข้าไม่ถึงบอล
55 – 65 นาที : ชีฟส์ ยังคงครองเกมได้ดีกว่า สวาน เปิดบอลจากฝั่งขวาให้กับบาร์ตเลตต์ ได้ขึ้นโหม่งแต่ยังไม่ผ่านมือของสตีล
65 – 90 นาที : แม้ว่าเกมจะเล่นกันอย่างดุเดือดในช่วง 25 นาทีสุดท้ายแต่โอกาสยิงก็มีไม่มากนัก ทั้ง 2 ทีมพยายามเปิดเกมรุกและโต้กลับเร็วแต่ไม่มีทีมใดผ่านเกมรับของอีกทีมเข้าไปได้ ริชาร์ดสัน น่าจะได้โอกาสที่ดีที่สุดในนัดนี้ในช่วงท้ายเกมแต่ลูกยิงของเขาไปตรงตัวเฟอร์นานเดซ เกมจบลงโดยที่ไม่มีทีมใดทำประตูได้และต้องตัดสินกันด้วยการดวลจุดโทษ
ช่วงดวลจุดโทษ : แมนฯ ยูไนเต็ด เป็นฝ่ายได้ยิงก่อนแต่ฟอสเตอร์ ผู้รักษาประตูสำรองยิงไปชนคาน บาร์ตเลตต์ ได้เปรียบและยิงไม่พลาดทำให้ชีฟส์ ขึ้นนำ 1 – 0 อีก 3 คนต่อมายิงไม่พลาด โดยโจนส์ และเอวร่า ของแมนฯ ยูไนเต็ด และมูคี่ของชีฟส์ ทำให้สกอร์มาเสมอกันที่ 2 – 2 มาถึงคนที่ 3 ของชีฟส์ คือฟาเบียง แม็คคาร์ธี่ ยิงไปชนเสาทำให้แมนฯ ยูไนเต็ด กลับมามีความหวังอีกครั้ง ริชาร์ดสัน ยิงไม่พลาดทำให้แมนฯ ยูไนเต็ด ขึ้นนำ 3 – 2 แต่โมทอง จูเนียร์ ก็ไม่พลาดเช่นกันทำให้มาเสมอกันที่ 3 – 3 ต้องไปลุ้นกันที่คนสุดท้าย อีเกิ้ล ยิงไปให้เฟอร์นานเดซ เซฟเอาไว้ได้ และเฟอร์นานเดซ เป็นคนยิงปิดท้ายเองและไม่พลาด ไกเซอร์ ชีฟส์ เอาชนะไปได้ในการดวลจุดโทษ 4 – 3
รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
ไกเซอร์ ชีฟส์ 1. เฟอร์นานเดซ, 6. แม็คคาร์ธี่, 21. มาโย, 13. โอบัว (8. เนนโกมาซ่า น. 46), 4. เอ็นซาม่า, 28. สเปนเซอร์, 33. โมโตโต (12. มูคี่ น. 46), 10. เอ็นโคซี่ (18. สวาน น. 46), 25. สคอล์กวิค, 29. บาร์ตเลตต์, 7. โมทอง จูเนียร์
ตัวสำรอง 30. วูสต์, 2. เทา, 44. เอ็มคอนซ่า, 8. เนนโกมาซ่า, 12. มูคี่, 24. มาเธบูล่า, 18. สวาน, 11. เอ็นโกเบเซ, 9. เดียฮัว, 31. ราเดเบ้, 20. อกีแมง, 27. ซีเบโค่
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 13. ลุค สตีล (1. เบน ฟอสเตอร์ น. 75), 2. ฟิลลิป บาร์ดสลี่ย์, 6. เวส บราวน์, 19. โจนาธาน อีแวนส์, 3. ปาทริซ เอวร่า, 7. ดาร์เรน เฟล็ตเชอร์ (17. เลียม มิลเลอร์ น. 75), 18. พอล สโคลส์, 11. ไรอัน กิ๊กส์, 8. คีแรน ริชาร์ดสัน, 9. จูเซ็ปเป้ รอสซี่ (15. เดวิด โจนส์ น. 58), 14. ตง ฟางโจว (12. คริส อีเกิ้ล น. 75)
ตัวสำรอง 1. เบน ฟอสเตอร์, 4. แดนนี่ ซิมป์สัน, 5. จอห์น โอเชีย, 10. ดาร์รอน กิ๊บสัน, 12. คริส อีเกิ้ล, 15. เดวิด โจนส์, 17. เลียม มิลเลอร์, 20. โอเล่ กุนน่าร์ โซลชาร์
DaKinG