มิชลินไกด์ บุกอีสาน เลือก 4 จังหวัดใหม่บรรจุในคู่มือฉบับ6
นายเกว็นดัล ปูลเล็นเนค ผู้อำนวยการฝ่ายจัดทำคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ทั่วโลก เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้มีการจัดทำมิชลิน ไกด์หรือคู่มือการจัดอันดับร้านอาหารที่มีคุณภาพ ประจำปี 2566 ซึ่งเป็นฉบับที่ 6 ของไทยและมีกำหนดเผยแพร่ปลายปี 2565 นี้ โดยเลือกจังหวัดนครราชสีมา, อุบลราชธานี, อุดรธานี และ ขอนแก่น เป็น 4 เมืองตัวแทนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เข้าไปในคู่มือฉบับนี้ด้วย เพราะเห็นว่า 4 จังหวัดดังกล่าว ได้สะท้อนถึงอัตลักษณ์อาหารอีสานที่โดดเด่นและมีรสชาติจัดจ้าน ตลอดจนแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติและวัฒนธรรมที่หลากหลายคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
ทั้งนี้ ผู้ตรวจสอบของมิชลินประทับใจในอาหารอีสานที่มีอัตลักษณ์โดดเด่นและรสชาติจัดจ้าน ซึ่งแม้จะใช้วิธีการประกอบอาหารที่เรียบง่าย ไม่ว่าจะเป็นการต้ม, ย่าง, นึ่ง หรือตุ๋นด้วยไฟอ่อน แต่กลับให้รสชาติที่ลึกซึ้งและซับซ้อน ทั้งยังมีเทคนิคการถนอมอาหารที่ถือเป็นจุดเด่นของอาหารอีสานและแสดงให้เห็นถึงภูมิปัญญาพื้นบ้านในการหมักดองปลาและผักตามฤดูกาลให้สามารถเก็บไว้ใช้เป็นวัตถุดิบสำหรับประกอบอาหารได้นานขึ้น โดยมีเครื่องปรุงรสพื้นฐานในครัวอีสานอย่าง “ปลาร้า” ที่ทำจากการนำปลาในท้องถิ่นมาหมักกับเกลือและข้าว เป็นวัตถุดิบยอดนิยมที่ใช้ใส่ในอาหารและน้ำจิ้มต่าง ๆ แทบทุกจาน ทั้งยังได้รับการขึ้นทะเบียนมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของชาติมาตั้งแต่ปี 2555คำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
นอกจากอาหารที่โดดเด่นและมีประวัติความเป็นมาที่น่าสนใจแล้วปัจจุบันยังมีเชฟชาวอีสานจำนวนมากที่มีความรู้และประสบการณ์ด้านอาหารจากร้านอาหารชื่อดังในต่างประเทศกลับมาเปิดร้านอาหารของตนเองที่บ้านเกิดเชฟเหล่านี้ไม่เพียงมีบทบาทสำคัญในการยกระดับอาหารอีสานโดยเลือกใช้วัตถุดิบท้องถิ่นมาปรุงอย่างพิถีพิถันด้วยทักษะที่ตนเองสั่งสมมานานแต่ยังช่วยกำหนดมาตรฐานใหม่ให้อาหารท้องถิ่นมีคุณภาพสูงมากขึ้นถือเป็นสัญญาณที่ดีว่าภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทยจะกลายเป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจของนักท่องเที่ยวที่ต้องการลิ้มรสอาหารพื้นบ้านซึ่งจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจชุมชนและธุรกิจร้านอาหารภายในท้องถิ่น
นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การจัดทำคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ประเทศไทยตลอด 5 ปีที่ผ่านมา มีบทบาทสำคัญในการสนับสนุน ททท. ส่งเสริมภาพลักษณ์ของประเทศไทยบนเวทีโลกในฐานะแหล่งท่องเที่ยวด้านวัฒนธรรมอาหาร โดยจำนวนร้านอาหารในคู่มือฯ ที่เพิ่มขึ้นทุกปีซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการรุกดำเนินการสำรวจพื้นที่ใหม่ในภูมิภาคต่าง ๆ ของไทยเพื่อค้นหาร้านอาหารที่ดีที่สุด และส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการที่บรรดาร้านอาหารต่างพยายามพัฒนาคุณภาพและบริการเพื่อให้ได้มาตรฐานตามเกณฑ์ของ ‘มิชลิน ไกด์’… ยังช่วยให้เกิดการรับรู้และสร้างกระแสการท่องเที่ยวเชิงอาหารให้กับทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติในวงกว้างมากขึ้น
เมื่อเปรียบเทียบคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ประเทศไทย ฉบับปฐมฤกษ์ ปี 2561 กับคู่มือฉบับล่าสุด ปี 2565 พบว่าจำนวนร้านอาหารทั้งหมดในเล่มเพิ่มขึ้นจาก 126 ร้าน เป็น 361 ร้าน ในจำนวนนี้เป็นร้านที่ได้รับดาวมิชลินเพิ่มขึ้นจาก 17 ร้านเป็น 32 ร้าน และร้านที่ได้รับรางวัล ‘บิบ กูร์มองด์’ จาก 35 ร้าน เป็น 133 ร้าน ขณะที่ขอบเขตพื้นที่ในการเข้าไปดำเนินการคัดสรรและจัดอันดับร้านอาหารในแต่ละปีก็เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จากที่คู่มือฉบับปี 2561 ครอบคลุมเฉพาะเขต“กรุงเทพมหานคร” จนล่าสุดคู่มือฉบับปี 2565 ครอบคลุมถึง 5 จังหวัด ได้แก่ “กรุงเทพมหานคร พระนครศรีอยุธยา เชียงใหม่ ภูเก็ต และพังงา”
“ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีศักยภาพสูง ทั้งในแง่วัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ด้านอาหาร, สถานที่ท่องเที่ยวในท้องถิ่น ตลอดจนเสน่ห์ของวิถีชาวบ้าน นอกจากการเดินทางตามรอยร้านอร่อยในภาคอีสานที่คู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ คัดสรรมาให้แล้ว นักเดินทางทุกวัยยังสามารถเที่ยวชมสถานที่ท่องเที่ยวหลากรูปแบบ อาทิ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ซึ่งพื้นที่ส่วนใหญ่อยู่ในจังหวัดนครราชสีมา และได้รับเลือกเป็นหนึ่งในมรดกโลกทางธรรมชาติโดยองค์การยูเนสโก, อุทยานแห่งชาติผาแต้ม จังหวัดอุบลราชธานี, แหล่งโบราณคดีบ้านเชียง จังหวัดอุดรธานี และพิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ภูเวียงจังหวัดขอนแก่น นอกจากนี้ภาคอีสานยังมีสินค้าประเภทอาหารและหัตถกรรมที่โด่งดังมากมายสำหรับเลือกซื้อเป็นของขวัญของฝาก จนได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์มากถึง 34 รายการ ผมเชื่อว่าคู่มือ ‘มิชลิน ไกด์’ ประจำปี 2566 ที่มีกำหนดเผยแพร่ปลายปีนี้ จะทำให้ผู้คนทั่วโลกได้รับรู้ถึงบรรยากาศที่โดดเด่นของแวดวงอาหารในภาคอีสาน และมีส่วนช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจของภูมิภาคนี้”